
วันนี้เราอยากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดการเลี้ยงลูก กับบทความ 9 หลักคิดการเลี้ยงลูก ทำให้ลูกไม่รู้จักโต ไปดูกันว่าพ่อแม่เลี้ยงลูกแบบไหน ทำให้ลูกไม่รู้จักโตเป็นผู้ใหญ่สักที
1 ปลุกลูกไปโรงเรียนตอนเช้าทุกวัน
เรียกได้ว่ากิจวัตรประจำวัน ของคุณแม่ที่ต้องทำทุกเช้า คือ การปลุกลูกเพื่อไปโรงเรียน ซึ่งความจริงแล้วคุณพ่อคุณแม่ควรฝึกลูกให้ตั้งนาฬิกาปลุก และจัดสรรเวลานอนให้เหมาะสม เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ ที่จะจัดการกับต ารางชีวิต ของตัวเอง
2 ทำอาหารเช้าหรืออาหารกลางวันให้
คุณแม่หล า ยคน อาจเป็นห่วงว่าลูกจะทานอาหารไม่อิ่ม และได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน จึงต้องเตรียมอาหารให้ลูกทุกวัน ถ้าคุณอยากให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ซะที คุณก็ควรให้เขาทำอาหารเองค่ะ ถ้าเขาทำไม่เป็นคุณแม่อาจ จะต้องสอนลูกก่อนสักหน่อย
3 นำของที่ลูกลืมไปให้ถึงที่โรงเรียน
การที่ลูกโทรมาเพื่อบอ กให้คุณพ่อคุณแม่นำเอาสิ่งของที่ลืมไปส่ งที่โรงเรียน โดยที่คุณก็ทำต ามที่ลูกสั่งทุกครั้ง ซึ่งนั่นอาจทำให้ลูกกล า ยเป็นเด็ก ที่ไม่รอบคอบได้ ดังนั้นเมื่อลูกโทรมา เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทำแบบนั้นอีก โดยที่ของชิ้นนั้นไม่ได้มีความสำคัญถึงขั้นค – อ ข าด บา ด ต – า -ย อะไร ก็ควรบอ กปัด เพื่อให้ลูกรู้จักมีความรอบคอบมากขึ้น และตรวจความเรียบร้อย ของสิ่งของเครื่องใ ช้ที่ต้องเอาไปโรงเรียนก่อน ออ กจากบ้านทุกครั้ง
4 ซักเสื้อผ้าให้ลูก
เมื่อลูกโตพอที่จะทำงานบ้านได้แล้ว แต่คุณพ่อคุณแม่ ไม่เคยฝึกหรือให้ลูกได้ทำด้วยตัวเอง และการที่คุณแม่ซักเสื้อผ้าให้ลูกทุกวันอาจทำให้เด็กเคยตัวและเป็นคนไม่มีวินัย ในตัวเอง หรือความรับผิดชอบ ดังนั้นหากเด็กอยู่ในวัยที่พอเรียนรู้และทำอะไร ด้วยตัวเองได้แล้ว คุณแม่ก็ควรสอนลูกถึงวิธีการใช้เครื่องซักผ้า หรือ การซักผ้าด้วยมือ เพื่อที่เขาจะได้ฝึกทำมันด้วยตัวเอง
5 ไม่ยอมปล่อยให้ครูมาว่ากล่าว ตักเตือน หรือตีลูก
ถ้าลูกมาฟ้องคุณว่า ถูกครูตี หรือว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งนั่นอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ มีอาการหัวร้อนและพร้อมจะไปเคลียร์กับครูที่โรงเรียน แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่อยากบอ กว่า คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องใจเย็นๆก่อน และอาจต้องสอบถามลูกถึงสาเหตุที่ครูทำเช่นนั้น ซึ่งหากลูกทำความผิดจริงๆ และการลงโทษไม่ได้ร้ า ยแรงจนถึงขั้น เ ลื อ ด ตกยางออ ก คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องถึงขั้นไปคุยกับคุณครูเองที่โรงเรียน ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณครูที่ต้องอบรมสั่งสอนลูกของเราอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ควรทำคือให้ คุณพ่อคุณแม่สอนลูกแทนว่า จะต้องทำตัวอย่ างไร เพื่อไม่ให้โดนครูว่าหรือตีอีก
6 ยุ่งกับการเรียน
การเป็นห่วงสนใจในเรื่องเรียน หรือความเป็นอยู่ที่โรงเรียนของลูกไม่ใช่เรื่องผิดหรอ กที่ แต่การที่คุณพ่อคุณแม่ไปบงการหรือ กำหนดเส้นทางการเรียนโดยไม่ให้เขามีสิทธิคิด หรือ ตัดสินใจด้วยตัวเอง นั่นอาจจะทำให้ลูกของคุณไม่โตเป็นผู้ใหญ่เสียที
7 ทำการบ้านให้
สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ชอบทำการบ้านให้ลูกเป็นประจำ ควรเลิกทำแบบนี้ ปอย่ างเด็ดข า ด เพราะสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นี้จะทำให้ลูกไม่ได้ฝึกคิดหรือเรียนรู้อะไรเลย ซึ่งถ้าไม่อยากให้ลูกเติบโตมาแบบไม่มีความรู้ในสมอง ก็อย่ าทำร้ า ยลูกทางอ้อมแบบนี้เลยค่ะ
8 ยอมให้ลูกหยุดเรียน
เพราะเด็กบางคนอาจมีอาการป่ ว ยการเมือง เนื่องด้วยสาเหตุหล า ยๆ อย่ าง อาจจะเกิดจากวิช าเรียน และการบ้านต่างๆ ซึ่งวิช าเรียนอาจง่ายเกินไป ทำให้เด็กเกิดความเบื่อ หรือ วิช าเรียนอาจยากจนเกินไป ทำให้เด็กเกิด ความกดดันว่าไม่ฉลาดเท่าเด็กคนอื่นๆ สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรทำคือ อย่ าถามลูกว่าทำไมถึงไม่อยากการไปโรงเรียน เนื่องจากเด็กมักจะไม่รู้คำตอบ
เมื่อเด็กไม่รู้ว่าจะตอบอย่ างไร ก็จะเป็นการทำให้เด็กเกิดความรู้สึกเครียดแทน ทั้งนี้พ่อแม่ผู้ควรบอ กเด็กว่าความกลัวไม่ช่วยอะไร หากแต่เด็กควรเอาชนะความกลัวให้ได้ ควรเปิดใจ ให้กว้างในการรับฟังความรู้สึกของลูก
9 ขีดเส้นชีวิตให้ลูก
กำหนดกฎเกณฑ์ข้อปฏิบัติต่างๆ ให้ลูกเดินต ามทางที่พ่อแม่ปูไว้ ซึ่งนั่นอาจเป็นเรื่องดีที่จะทำให้ลูกมีวินัย แต่ในทุกๆกฎที่พ่อแม่ตั้งไว้ ก็ควรให้ลูกรับรู้ด้วย พร้อมให้ลูกมีส่วนร่วมในการขีดเส้นชีวิตของตนเอง และต้องปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ ที่จะทำบางสิ่งด้วยตัวเองบ้างค่ะเพียงเท่านี้ความสำเร็จในชีวิตลูกก็จะอยู่ไม่ไกล
สุดท้ายนี้ การเลี้ยงลูกที่ถูกต้องจะต้องอย่ าให้ลูกเปราะบางจนเกินไปเหมือนไข่ในหิน อย่ าเลี้ยงลูกให้เห็นแก่ตัว ต้องเลี้ยงลูกให้โตไปต ามวัย อย่ าให้กินยากอยู่ยาก อย่ าให้ลูกกลัวในสิ่งที่ไร้สาระ โดยพ่อแม่ควรเริ่มต้นสร้างนิสัยเด็ก ด้วยการทำให้ตัวเองให้เป็นแบบอย่ าง พร้อมกับฝึกให้เด็กรับรู้ และรู้จักรับผิดชอบด้วยตัวเอง รวมทั้งเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้รวมถึงฝึกฝน นั่นจะทำให้เด็กสามารถหาแนวทางดำเนินชีวิต ต ามบทบาทและหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่ างดี
ที่มา p r o f e s s i o n – j 5 5, k a e y i m