
วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดการชอบเปรียบเทียบลูกกับลูกของคนอื่น กับบทความ ฝากถึงพ่อแม่ทุกคน ไม่ควรนำลูกไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น ไปดูกันว่าทำไมถึงไม่ควรเปรียบเทียบลูกกับคนอื่น
การเปรียบเทียบมีให้เห็นกันอยู่ทั่วไปในทุกๆ สังคม หรือแม้แต่ในทุกๆ ครอบครัวเลยก็ว่าได้ หากลองสังเกตดีๆ การเปรียบเทียบหล ายต่อหล ายครั้ง เกิดจากความตั้งใจและปรารถนาดีของพ่อแม่ แต่มันกล ายเป็นสิ่งที่ทำร้ า ยจิตใจลูกอย่ างไม่น่าเชื่อ ด้วยคำพูดที่ดูไม่มีอะไร เช่น ‘ดูซิ เด็กบ้านโน้นเค้ายังทำแบบนี้ได้เลยนะ ทำไมหนูทำไม่ได้’ หรือ ‘ดูพี่คนนั้นสิ เค้าเก่งนะ ทำนี่ก็ได้ ทำโน่นก็ดี หนูต้องทำให้ได้แบบเค้านะลูก’ ด้วยความคิดเห็นส่วนตัวของแม่ยุ้ยเอง ที่สงสัยอยู่เสมอกับประโยคทำนองนี้ว่า อะไรทำให้ พ่อ แม่ ปู่ ย่ า คิดแบบนั้น คิดว่าคำพูดลักษณะนี้จะช่วยให้เรา
อย ากทำอะไรต่อมิอะไรที่เหมือนคนอื่นๆ หรือทำให้ได้เพื่อทัดเทียมคนอื่นๆ พอผ่านเวลามาจนถึงวันที่ได้ยืนในจุดที่เราเป็นพ่อแม่ จึงทำให้ย้อนกลับมาคิดถึงความรู้สึก เมื่อโดนนำไปเปรียบเทียบ คนแต่ละคนเติบโตมาในสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน บุคลิก ลักษณะ นิสัย ความสนใจ และสภาพทางกายภาพของทุกคนก็ต่างกันออกไป ไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ พี่น้องคลานตามกัน มาแท้ๆ ยังแตกต่างกันเลย นับประสาอะไรกับลูกบ้านคนอื่น
กาลครั้งหนึ่ง เคยได้ยินคำว่า การเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น จะทำให้เกิดแรงฮึด! แต่นั่นคือหนึ่งในสิบหรือเปล่าคะ แล้วคิดว่าแรงฮึดแบบที่ว่านี้ เด็กอนุบาล เด็กประถม สามารถเข้าใจจุดนั้นได้หรือไม่ เราเองเป็นพ่อเป็นแม่ หากลองคิดในมุมกลับกันบ้างว่า ถ้าวันนึงลูกเอ่ยว่า ‘แม่..ทำไมแม่บ้านโน้นเค้าทำกับข้าวอร่อยกว่า สอนการบ้านก็ไม่เสียงดัง ไม่ดุ ไม่ตี แม่ต้องทำให้ได้แบบแม่บ้านโน้นนะคะ’ ถ้าเป็นแบบนี้บ้าง รู้สึกอย่ างไรคะ แล้วก็ไม่แปลกเลย ถ้าเด็กที่เติบโตมากับการถูกนำไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
จะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ช่างเปรียบ ช่างเทียบ เพราะเขาก็ถูกหล่อหลอมมาเช่นนั้น อย่ าทำให้โลกของลูกเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ว่า ตัวเองด้อยค่า เพราะทำอะไรก็ไม่ดีเท่าคนอื่น อย่ าทำให้ลูกเติบโตมาแบบไม่แน่ใจว่า ตกลงฉัน มีอะไรดีบ้าง เพราะฉันไม่เท่าเทียมกับคนอื่นเลย และอย่ าให้ลูกเติบโตมาด้วยความไม่แน่ใจว่า พ่อแม่เห็นความดีในตัวหนูบ้างไหม? เพราะเห็นแต่ชมลูกคนอื่น บอกว่าลูกคนอื่นดีอยู่ตลอ ด แล้วหนูล่ะ? เปลี่ยน มุมมองกันใหม่ดีกว่าค่ะ
อย่ ามัวแต่คิดว่า ลูกเราด้อยยังไง ทำอะไรได้น้อยกว่าลูกคนอื่นแค่ไหน หรือลูกเราเสียเปรียบลูกคนอื่นเรื่องอะไร ลองเปลี่ยนเป็นช่วยกัน เสริมสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจในสิ่งที่ลูกเรามี ลูกเราเป็น ช่วยกันดึงข้อ ดีที่มีออกมา สนับสนุนและช่วยกันพัฒนาจุดอ่อน ที่ยังต้องฝึกฝนไปด้วยกัน ชี้ให้ลูกเห็นว่า จุดนี้เราต้องพย าย ามเพิ่ม เพราะอะไร ไม่ใช่เพื่อให้เท่าเทียมกับใคร สอนให้ลูกมีจุดพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี แต่ก็เรียนรู้ที่จะสร้างแรงบันดาลใจที่จะก้าวต่อไป ด้วยแรงที่มาจากข้างในตัวเอง ไม่ใช่มีคนอื่นเป็นเครื่องวัดตัวเรา ทุกชีวิตมีสิ่งที่ดีซ่อนอยู่ในตัวเองเสมอค่ะ แค่เราต้องหาให้เจอ และชื่นชมในสิ่งที่เรามี เมื่อเห็นคุณค่าตัวเอง เราจะมีชีวิตที่พอใจ และสุขใจจากสิ่งที่เราเป็น
ที่มา theplatustory, profession-j55