
วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดการช้เงินในยุคปัจจุบันนี้ กับบทความ 9 เหตุผลที่ควรหยุดใช้เงินฟุ่มเฟือย อนาคตจะลำบาก ไปดูกันว่าทำไมถึงควรหยุดใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
1 การคอร์รัปชั่น การโ ก ง จะมีให้เห็นบ่อยขึ้น
คนฉวยโอกาสจะมีมากขึ้น เพราะการข า ดเงิน ไม่มีเงินใช้ คนเลยข า ดจิตสำนึกได้ง่ายกว่าเดิม ทำทุกอย่ างเพื่อได้เงิน มา สนองความต้องการของตัวเอง เวลาจะซื้ อข า ยหรือทำธุรก ร ร มอะไร เราต้องรอบคอบรัดกุมอยู่เสมอ อย่ าเปิดช่องโหว่ให้คนอื่นเข้ามาเอาเปรียบเราได้เด็ดข า ด
2 เงินจะอยู่เหนือคน มากขึ้น
ทุกคนต่างก็พย าย าม ทำทุกอย่ างเพื่อให้ได้มัน มา บางคนจะไม่สนใจเลยว่าใครจะลำบาก หรือเดือ ดร้อน มากแค่ไหน ขอแค่ได้เงิน มาก็พอ ดังนั้น เราควรระมัดระวังตัวไว้ให้ดี อย่ าเชื่อใจใคร ที่สำคัญคือ อย่ าโลภอย ากได้ของคนอื่น หรือหวังจะกอบโกยอะไรง่ายๆ เกินความเป็นจริง เพราะจะมีพวกมิจฉาชีพ แฝงมาในรูปแบบต่างๆ เยอะมาก
3 ค่าครองชีพจะสูงขึ้นอีก
ข้าวของทุกอย่ างแพงขึ้น แต่เงินทองกลับห า ย ากกว่าเดิม หากวันนี้เราใช้จ่ายไม่ระวัง จะต้องเสียใจภายหลังแน่นอน สิ่งของฟุ่มเฟือยต่างๆ ควรพักไปก่อน ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น เก็บเงินไว้ดีกว่า อย่ าคิดว่าตัวเองจะไม่กระทบ ยุคนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
4 อิสรภาพทางการเงินจะเอื้อมถึงได้ย าก
การที่มีรายได้เข้ามามากกว่ารายจ่าย โดยที่เราไม่ต้องทำงาน นั่นแหละคือ อิสรภาพทางการเงิน คนสมัยก่อนจะนิยมฝากเงินเพื่อเอาดอ กเบี้ย เก็งกำไรที่ดิน-อสังหาฯ หรือซื้ อหุ้นพื้นฐานดีเพื่อรับเงินปันผล รวมไปถึงการประกอบธุรกิจ ที่สามารถจ้างคนอื่น มาดูแลให้ได้ โดยที่เจ้าของไม่ต้องลงไปดูแลเอง ขนาดระดับเซียน ยังล้มระเนระนาด เอาตัวแทบไม่รอ ด ก็ไม่แปลกที่อิสรภาพทางการเงิน จะเอื้อมถึงได้ย ากกว่าเดิม
5 ระวังเรื่องปัญหาครอบครัว
พ่อแม่ต้องออ กจากบ้าน ไปทำงานหาเงิน งานก็หนัก เงินก็น้อย แทบไม่พอค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ทั้งยังต้องแบ่งเวลาให้กับลูกอีก ด้วยภาวะกดดันเช่นนี้ จึงต้องระวังเรื่องอารมณ์ของตัวเองให้ดี อย่ าเห็นคนอื่นเป็นที่ระบายอารมณ์ ทุกคน มีหัวใจ มีความรู้สึกเหมือนกัน
6 เงินจะห า ย าก
หากยังมีช่องทางสร้างรายได้อยู่ จงรั ก ษ ามันไว้ให้นานที่สุดอย่ าทิ้งงานทิ้งรายได้เด็ดข า ด ไม่งั้นจะนึกเสียใจทีหลัง ต่อให้เหนื่อยหรืออึดอัดยังไง ก็ต้องทนไปก่อน อย่ างน้อยก็ยังมีกิน มีใช้ ตั้งใจเก็บทุนสำรอง ให้เราอยู่ได้สบายๆ สัก 1-2 ปี แล้วต่อยอ ดไปทำอย่ างอื่น ควบคู่กับงานหลัก จะช่วยให้มั่นคงยิ่งขึ้น การมีรายได้จากหล า ยๆ ทาง ก็เหมือน มีหลอ ดไฟหล า ยดวง ถ้าหลอ ดนึงข า ด ก็ยังมีหลอ ดอื่นให้แสงสว่างได้อยู่ แต่ถ้าเรามีหลอ ดไฟแค่ดวงเดียว เมื่อหลอ ดข า ดชีวิตจะมืดแปดด้านทันที
7 เตรียมรับมือ ยุคดอ กเบี้ยเงินฝาก 0%
เงินจะล้นระบบ แต่ไม่ใช่เงินสำหรับทุกคนนะ อย่ าเข้าใจผิด เมื่อเงินล้นระบบ จะล้นไปอยู่ในมือคนร ว ย ซึ่งคนร ว ย ๆ มีจำนวนน้อยมากๆ หากเทียบกับคนจน ฉะนั้น มันจึงเกิดการใช้จ่ายที่น้อยต ามไปด้วย เมื่อจ่ายน้อยก็จะส่ งผลกระทบแบบโดมิโน่ คือพ่อค้าแม่ค้าไม่มีคนซื้ อ ของข า ยไม่ได้ ตลาด ห้าง ไม่มีคนเดิน คนส่วน มากไม่มีเงิน ที่จะเอาไปใช้จ่าย พอเศรษฐกิจไม่ดี บริษัทและโรงงานต่างๆ ก็ต้องปิดตัวลง
8 ผู้สูงอายุต้องกลับมาทำงาน
ปกติคนวัยนี้ส่วนใหญ่ มักจะวางแผนเพื่อให้มีเงินเก็บ ไว้ใช้หลังเกษียณ ในจำนวน มากเพียงพอ ที่จะหวังเก็บกินดอ กเบี้ย จากการฝากธนาคารได้บ้าง แต่ถ้าหากเงินฝากไม่มีดอ กเบี้ย ก็จะทำให้เงินเก็บค่อยๆ ถูกใช้ไปจนหมด สุดท้ายก็กล า ยเป็นว่า ผู้สูงอายุต้องกลับมาทำงาน เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองอีกครั้ง
9 ความเหลื่อมล้ำจะมากขึ้น
คนที่ปรับตัวเก่ง เรียนรู้เร็ว จะสามารถพัฒนาเป็นคนร ว ย ได้ในไม่กี่ปี ส่วนคนที่ก้าวต ามเทคโนโลยีไม่ทัน จะถูกผลักลงไปอยู่กับคนชั้นล่าง คนร ว ย ก็จะร ว ย ยิ่งขึ้น ในขณะที่คนจน หาเช้ากินค่ำ ต้องทำงานหนัก หาเลี้ยงชีพไปตลอ ดชีวิต ต่อจากนี้จึงต้องเลิกแข่งขันกันที่เกรดเฉลี่ย
เลิกเอาปลาไปปีนต้นไม้ เลิกเอานกไปแข่งว่ายน้ำ เลิกวัดความสำเร็จ ที่ตำแหน่ง อาชีพการงาน แต่ต้องค้นหาความถนัดของตัวเองให้เจอ แล้วต่อยอ ดเป็นธุรกิจ หรือมุ่งเน้นไปที่การค้าข า ย
สุดท้ายคือต้องเรียนรู้การลงทุน หากจับถูกจังหวะ จะสามารถพลิกฐานะได้ไม่ย าก ส่วนคนที่ไม่เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่เปิดรับแนวความคิดใหม่ๆ ยังยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ ก็มีโอกาสสูงที่จะถูกทอ ดทิ้งไว้ข้างหลัง
ที่มา aanplearn