
วันนี้เราอยากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้สิ่งที่พ่อแม่ไม่เคยคิดที่จะบอกให้ลูกได้รับรู้ กับบทความ 6 สิ่งที่พ่อแม่ไม่เคยคิดที่จะบอกให้ลูกได้รับรู้ ไปดูกันว่ามีเรื่องราวความลับอะไรบ้างที่พ่อแม่จะยังคงเก็บไว้กับตัวเองไม่ยอมบอกลูกให้รับรู้
พ่อกับแม่คือบุคคลที่บางทีเราก็คิดว่าท่านช่างวุ่นวาย ช่างน่าเบื่อหน่าย บางทีก็รู้สึกว่าพูดมาก บ่นมาก บางคนถึงกับมีความคิดว่าอยากให้พวกท่านหายตัวไป เราไม่ว่าเธอหรอก ครอบครัวคนเรามันไม่เหมือนกัน แต่ก่อนที่เธอจะอยากให้ท่านหายตัวไป เธอรู้มั้ยว่าแม้พวกท่านจะพูดกับเราเยอะแล้ว แต่ท่านยังมี ‘ความในใจ’ บางอย่างที่ยังไม่ได้พูดอยู่นะ ซึ่งอันนี้น่ะ สาบานได้ว่าพ่อแม่ของทุกบ้าน คิดเหมือนกันทุกคน
1 เสียใจนะ
หลายครั้งที่เราอาจจะร้องไห้เพราะพ่อกับแม่ เช่นว่าเราอยากเรียนแบบนี้ ทำแบบนี้ แต่พ่อแม่ก็คัดค้าน ทำให้เรารู้สึกน้อยใจ เสียใจ มีอารมณ์โกรธเกรี้ยว กระทืบเท้าปึงปัง ปิดประตูแรง ๆ แล้วก็นั่งร้องไห้ แต่เธอเชื่อมั้ยว่าในขณะนั้น คนที่ร้องไห้อยู่อีกฝั่งนึงของประตูก็คือพ่อกับแม่นั่นแหละ ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ การกระทำของเธอ ในฐานะลูก มีผลต่อความรู้สึกพ่อแม่เป็นอย่างมาก ซึ่งเธอเสียใจ เธอรู้ตัว แต่พ่อแม่เสียใจร้องไห้ เธอไม่เคยรู้เลย ท่านอาจจะร้องไห้บ่อยกว่าที่เธอร้องก็ได้นะ
2 รักพ่อกับแม่บ้างนะ
ตอนเรามีแฟน เรารู้ดีว่าเรารักแฟนมาก ไม่อยากจะห่าง อยากอยู่ใกล้ ๆ ได้ยินคำหวาน ๆ หยอดหูตลอดเวลา และเราก็หวังให้แฟนรักเราตอบเหมือนกัน เช่นถ้าแฟนซื้อดอกไม้มาให้ เราก็ดีใจ ถ้าแฟนบอกรัก เราก็ดีใจ พ่อแม่ก็เหมือนกันนะ ท่านรักเรา ท่านก็หวังอยากให้เรารักท่านเหมือนกัน ซึ่งไม่ต้องเป็นช่อดอกไม้ แหวนเพชรเลอค่าพวกนั้นหรอก แค่เธอใส่ใจความรู้สึกพวกท่าน เห็นหัวพวกท่าน พูดจาหวานหู หอมแก้มท่านบ้าง แค่นั้นก็เกินพอแล้ว
3 เหนื่อย
จริงอยู่ว่าการเติบโตขึ้นมาเจอสังคม เจอหน้าที่ที่เราต้องรับผิดชอบมากขึ้น บางทีก็ทำให้เราเหนื่อยจนไม่อยากพูดกับใคร หรือทำอะไร ไหนจะงาน ไหนจะเรียนต่อ ไหนจะความรัก ชีวิตอีรุงตุงนังสิ้นดี แต่ระหว่างที่เธอบ่นเหนื่อยมันแทบจะทุกนาที ลองคิดดี ๆ อีกทีซิ ว่าพ่อแม่ของเธอต้องเหนื่อยเท่าไหร่บ้างนะ ฉันใช้ชีวิตด้วยตัวเองมาแค่กี่ปียังเหนื่อยขนาดนี้ แล้วพ่อกับแม่ที่ดูแลฉันมาจนตัวเท่าช้าง นอกจากดูแลตัวเองยังต้องดูแลลูกอย่างฉันมาเป็นสิบ ๆ ปี ท่านจะเหนื่อยมากแค่ไหนกัน ซึ่งท่านก็ไม่อยากปริปากบ่นให้ลูกลำบากใจหรอก ลูกรู้สึกแย่ พ่อแม่ก็ทุกข์
4 อย่าลืมกันนะ
คนเราเมื่อโตขึ้น คนรอบตัวก็มากขึ้น จากแต่ก่อนตอนยังเด็ก ชีวิตก็มีแต่พ่อแม่ ไปไหนก็ต้องรอพ่อแม่ แต่พอโตแล้วสังคมมันก็หลากหลาย เพื่อนเอย แฟนเอย ซึ่งแต่ละความสัมพันธ์ก็เป็นอะไรที่เรารู้สึกสนุก กระตือรือล้นที่อยากจะทำความรู้จักอยู่ตลอด แต่เธออาจสนุกกับภายนอกมากจนลืมที่บ้านไปรึเปล่า เธอได้เคยคิดบ้างมั้ยว่ามีใครกำลังนั่งรอเธอกลับบ้านไปหาอย่างใจจดใจจ่อ ถ้าเธอไม่เข้าใจว่าความรู้สึกมันเป็นแบบไหน ให้ลองนึกถึงตอนที่ตัวเองกระวนกระวายใจเวลาแฟนหายไป ไม่โทรหา นึกถึงตอนที่ตัวเองเป็นกังวล เวลาเฝ้ารออะไรสักอย่าง รู้สึกไม่ดีใช่มั้ย เวลาพ่อแม่กระวนกระวายใจ หรือกังวลเพราะเฝ้ารอ ท่านก็เป็นทุกข์ไม่ต่างไปจากเธอหรอก
5 เข้าใจพ่อกับแม่นะ
เคยได้ยินคำว่า ‘มีลูกแล้วจะเข้าใจ’ มั้ย นั่นเป็นเพราะในบางสิ่งบางอย่างที่พ่อกับแม่ทำ แล้ววันนี้เธอไม่เข้าใจ ณ ตอนนั้นเธอก็จะเอาแต่มีคำถามว่า ทำไม ทำไม ทำไม??? เช่น ขอไปเที่ยวแล้วพ่อกับแม่ไม่ให้ไป ทั้งที่เราก็ดูแลตัวเองได้แล้ว หรืออยากได้อะไรสักอย่าง แล้วพ่อกับแม่ไม่ให้ ก็เป็นคำถามว่าทำไมขึ้นมาเหมือนกัน เมื่อวันใดเธอมีสถานะเป็นแม่คน เธอต้องเลี้ยงลูก คำว่าทำไมที่ติดค้างในใจเธอจะหายไปเอง
6 ลูกยังเป็นเด็กอยู่เสมอ
ตอนเธอยังพูดได้แค่คำว่า อ้อ กับ แอ้ ก็มีเพียงพ่อกับแม่นี่แหละที่เป็นเลี้ยงดูอุ้มชูเธอมา แต่พอเข้าสู่วัยรุ่นปุ๊บ เธอกลับมีชีวิตเป็นของตัวเองทันที มีเหตุผลในหัวเสมอว่าฉันโตแล้ว พ่อกับแม่ไม่จำเป็นต้องห่วงแล้ว มีความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น ยิ่งหาเงินเลี้ยงดูตัวเองได้แล้วยิ่งตีตัวออกห่าง เพราะไม่ต้องการให้พ่อแม่ มาเป็นกรอบในการใช้ชีวิตให้แล้ว แต่เธอรู้มั้ยว่าในสายตาของพ่อกับแม่ เรายังเป็นเด็กน้อยที่พูดได้แค่อ้อกับแอ้เหมือนเดิม แม้ว่าเราจะโตมากแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วก็โตได้ไม่เท่าพวกท่าน เจอปัญหา เจออุปสรรคชีวิตมาน้อยกว่าพวกท่านอยู่ดี มีอะไรก็ควรฟังท่านบ้างนะ
ที่มา songtorkwamrak