เมื่อทุกวันนี้บ้านเมืองเราเข้าสู่ช่วงวิกฤตหนักสุดของเ ศ ร ษ ฐ กิ จ ที่ทำให้หล า ยๆ คนต้องกล า ยเป็นคนตกงาน ไม่มีรายได้เข้าบ้าน และยังมีรายจ่ายทุกๆ วันเหมือนเดิม เราจึงอย ากที่จะแนะนำให้คุณใช้จ่าย และรู้เท่าทันคนให้มากเกี่ยวกับเรื่องเงิน กับ 5 เรื่องเงิน ที่ยุคนี้ควรระวังไว้ ไปดูกันว่าเรื่องเงินเรื่องอะไรบ้างที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่ออนาคตของคุณและครอบครัว
1 ไม่ลงทุนที่ทำกำไรสูง ถ้ายังมีความรู้ไม่มากพอ
ข่าวก็มีออ กมาให้เห็นบ่อยๆ ที่คนเอาเงินไปลงทุนเล่นแชร์ เพื่อหวังผลกำไรสูงๆ ต ามที่เขาโฆษณา สุดท้ายก็โดนหลอ ก แล้วต้องเสียเงินกันเจำนวน มาก แน่นอนว่าทุกคนหวังร ว ย แต่คงไม่มีใครเอาเงิน มาให้เราฟรีๆแบบง่ายๆหรอ กนะ เพราะฉะนั้นการลงทุนอะไรที่ได้ผลตอบแทนสูงๆแบบง่ายๆไม่ต้องทำอะไร ต้องศึกษาให้ดี และเข้าใจในหลักการลงทุนอย่ างเพียงพอ
2 ไม่ขย ายธุรกิจเพิ่ม เพราะมีความเสี่ยงสูง
หล า ยคนคงจะรู้สถานการณ์ตอนนี้ดี ว่าเ ศ ร ษ ฐ กิ จ กำลังไปในทิศทางไหน ไม่จำเป็นต้องเป็นนักธุรกิจก็พอจะเดาได้ และสำหรับคนที่ทำธุรกิจ ไม่ว่าจะขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ หล า ยคนกำลังอยู่ในช่วงขาลง และก็ยังมีน้อยคนกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น จึงอย ากที่จะขย ายธรุกิจให้โตเร็วๆ แต่เราควรจะมองการไกล และดูตลาดดีๆ รวมถึงเตรียมแผนสำรองไว้เผื่อด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตธุรกิจยังจะทำกำไรได้ดีอยู่หรือเปล่า ควรศึกษาความเสี่ยงดีๆ
3 ไม่นำเงินเก็บสำรองฉุกเฉินออ กมาใช้
จากสถานการณ์ตอนนี้ หล า ยคนอาจจะต้องถึงเวลานำเงินเก็บที่มีออ กมาใช้จ่ายไปก่อน แต่ไม่ควรเอาเงินเก็บออ กมาลงทุนอะไรทั้งสิ้น หากใครยังพอมีแรงหาเงินได้อยู่ ก็ไม่ควรเอาเงินเก็บออ กมาใช้ตอนนี้ หากจำเป็นจริงๆควรดึงออ กมาเพียงเล็กน้อย และรีบเก็บคืนทันทีให้เร็วที่สุด เพราะในอนาคตอาจจะเจอผลกระทบมากกว่านี้ และเราต้องเดือ ดร้อนใช้เงินจริงๆ จะได้ไม่ลำบากมาก สำหรับใครที่ยังไม่มีเงินเก็บ ก็ให้รีบลงมือเก็บได้แล้ว ถ้ายังพอเหลือไว้เก็บได้บ้าง เดือนละเล็กน้อยค่อยๆสะสมไป
4 ไม่สร้างห นี้เพิ่ม
เรื่องนี้สำคัญมาก เราต้องวิเคราะห์ถึงความจำเป็นในการใช้จ่ายเงินออ กไปแต่ละก้อนให้มากที่สุด ถ้าอันไหนยังสามารถรอได้ ไม่จำเป็นต้องซื้ อ หรือไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันก็อย่ าเพิ่งซื้ อในช่วงนี้ โดยเฉพาะของชิ้นใหญ่ๆที่ต้องผ่อนหล า ยปี อย่ างเช่น รถยนต์ บ้าน คอนโด เพราะเราไม่รู้ว่าเ ศ ร ษ ฐ กิ จ จะแย่ลงอีกเมื่อไหร่ จะยิ่งเป็นการเพิ่มภาระให้กับตัวเองเปล่าๆ
5 ไม่ค้ำประกันให้ผู้อื่น
จริงๆข้อนี้ ไม่ว่าจะในสถานการณ์ปกติ หรือในตอนที่เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ทรุดตัว ก็ไม่ควรไปค้ำประกันให้ใครอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่คนที่เราไว้ใจได้จริงๆ หรือเคยมีบุญคุณช่วยเหลือเรามาก่อน เพราะการไปค้ำประกันให้ใครสักคน ก็เหมือนกับการยินยอมที่จะชดใช้ห นี้แทนคนนั้น ถ้าเขาเบี้ยวหรือไม่จ่าย เราก็ต้องรับผิดชอบห นี้ที่ไม่ได้ก่อเอง
ยิ่งช่วงนี้ ยิ่งต้องรู้จักวางแผนการใช้จ่ายเงินให้ดี พยุงตัวเองให้รอ ดพ้นวิกฤตช่วงเวลาแบบนี้ไปให้ได้ ใช้สติในการดำเนินชีวิต และใช้จ่ายแค่เท่าที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น
ที่มา : bitcoretech
