
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้การใช้ชีวิตกับคนหมู่มากในสังคม กับบทความ เหตุผลที่เราควรมองโลกให้แง่ดี แล้วชีวิตจะดี ไปดูกันว่าทำไมเราถึงควรเข้าใจชีวิตและมองโลกในแง่บวกเสมอ
ที่สนามบินนานาช าติระดับโลก มีนักธุรกิจหญิงแต่งตัวดีคนหนึ่ง จำเป็นต้องรอเปลี่ยนเครื่องบิน เป็นเวลาถึง 3 ชั่ วโมง เพื่อไปจุดหมายปล า ยทาง เธอจึงตัดสินใจ เดินไปซื้ อหนังสือ 1 เล่ม และคุกกี้ 1 ห่อ จากนั้นก็หาที่นั่ง เพื่ออ่า นหนังสือ และกินคุ้กกี้ฆ่ าเวลาไปพลางๆ
เธอสอ ดส่ายสายต า มองหาที่นั่งได้ 1 ที่ ข้างๆเธอมีช ายหนุ่ม ซึ่งนั่งเหยียดกาย อย่ างไม่สนใจใคร สักครู่หนึ่งขณะที่เธออ่ านหนังสือ ช ายหนุ่มก็ยื่น มือ มาหยิบขน มคุกกี้ออ กจากถุง ซึ่งวางอยู่ระหว่างคนทั้งสอง แล้วกิน มันทีละชิ้น เธอมองเขาด้วยความโ ก ร ธ แต่ไม่ต้องการ
ทำให้เรื่องวุ่นวาย เธอจึงทำเป็นไม่สนใจ เธอเริ่มรู้สึกเบื่อ ที่จะกินคุกกี้และเฝ้ามองนาฬิกา ในขณะที่ช ายหนุ่ม ซึ่งเป็นขโมยผู้ไร้ย างอาย กำลังกิน มันเรื่อยๆ
เธอเริ่มโมโหและคิดในใจว่า ‘ถ้าฉันไม่ใช่ผู้ดี มีการศึกษาแล้วล่ะก็ ฉันจะชกหน้าเจ้าหมอนี่ให้แหลกไปเลย’ ทุกครั้งที่เธอหยิบกิน 1 ชิ้น ช ายหนุ่มก็หยิบมันกิน 1 ชิ้น ทั้งสองส่ งสายต ามองกัน เมื่อคุกกี้เหลือเพียงชิ้นสุดท้าย เธอหยุดและอย ากรู้ว่า ช ายหนุ่มจะทำอย่ างไร ช ายหนุ่มค่อยๆหยิบคุกกี้ชิ้นสุดท้าย
แล้วหักออ กเป็น 2 ชิ้น ส่ งให้เธอครึ่งชิ้นและกินเองครึ่งชิ้น เธอรับคุกกี้จากช ายหนุ่ม อย่ างรวดเร็วและคิดในใจว่า ‘เขาช่างเป็นคนไร้มารย าทสุดๆ ช่างไร้การศึกษา ไม่มีแม้แต่พูดขอบคุณสักคำ’ เธอลุกขึ้นหยิบข้าวของทั้งหมด แล้วตรงไปยังประตูขึ้นเครื่องไม่แม้แต่เหลียวหลัง กลับมามองหัวขโมยผู้ไร้มารย าท ซึ่งยังนั่งอยู่ที่เดิม
ภายหลังจากขึ้นเครื่อง และนั่งประจำที่อย่ างสบายแล้ว เธอก็หยิบหนังสือที่อ่า นค้างอยู่ ขึ้น มาอีกครั้ง ในขณะที่หยิบหนังสือ จากกระเป๋าก็พบว่ามีขน มคุกกี้ 1 ห่อเธอตกใจมาก ถ้าคุกกี้ของฉันยังอยู่ที่นี่ ก็แปลว่าคุกกี้ห่อนั้นเป็นของช ายหนุ่ม ที่’แบ่งให้เธอ กิน’ เธอลุกขึ้นทันทีแล้ววิ่งออ กจากเครื่องบินไปยังที่นั่งของช ายหนุ่ม แต่คงเหลือแต่ที่นั่งว่างเปล่า มันสายไปเสียแล้ว ที่จะได้ขอโทษช ายหนุ่ม
ระหว่างเดินกลับเข้าเครื่อง เธอรู้สึกเ จ็ บป ว ดหัวใจ เธอนั่นเองที่ไร้มารย าท เป็นหัวขโมยที่ไร้การศึกษาตัวจริง มีกี่ครั้งในชีวิตของคนเรา ที่ค้นพบในภายหลังว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มันไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นการเข้าใจผิด มีกี่ครั้งในชีวิตที่เราข า ดความไว้วางใจผู้อื่น และทำให้เราตัดสินผู้อื่น จากความคิดเย่อหยิ่งของเราเอง ซึ่งห่างไกลจากความเป็นจริงมากมาย นี่แหละที่ทำให้เรา
ต้องคิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ก่อนจะตัดสินผู้อื่น หล า ยๆสิ่งไม่ได้เป็น อย่ างที่เห็น ควรมองผู้อื่นในแง่ดี แล้วคอยสงสัยตัวเองว่า ‘เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง”เราเคยแบ่งปันอะไรแก่คนอื่นบ้างหรือไม่’
ที่มา create–readin, yakrookaset