
วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้การใช้ชีวิต กับบทความ เรียนสูงแค่ไหนไม่สำคัญ ใช้ชีวิตเป็นสำคัญกว่า ไปดูกันว่าทำไมการใช้ชีวิตเป็น ทำงานเป็นถึงสำคัญกว่าการเรียนจบสูงๆ
การศึกษานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่หล า ยคนยังจำกัดคำว่า ‘การศึกษา’ ไว้แค่ในห้องเรียน ตัดสินว่าคนนั้น มีการศึกษา หรือไม่มีความรู้ จากวุฒิที่เรียนจบออ กมา และหล า ย ๆ คนก็เชื่อว่า การที่ได้เรียนจบสูง จะทำให้มีหน้าที่การงานที่ดีในอนาคต แต่ในโลกความเป็นจริงแล้ว การที่เราเรียนสูงก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะฉะนั้น การเรียนสูงแค่ไหนไม่ใช่ประเด็น การทำงานให้เป็นต่างหากคือประเด็นสำคัญ
เรื่องแรกที่จะพูดถึง คือเรื่องการเรียน
การศึกษาบ้านเรา เป็นเรื่องของผู้เรียนเพียงคนเดียว การจะเรียนดีเรียนแย่ ก็อยู่ที่ตัวเองทั้งนั้น ชีวิตในวัยนักศึกษา หากเราทำผิดพลาด อย่ างมากก็แค่ติด F ต้องไปเรียนใหม่กับรุ่นน้อง มีเรื่องเครียดแค่ไม่กี่เรื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องสนุกซะมากกว่า จนบางคนก็ไม่อย ากจบออ กมาด้วยซ้ำ
เรื่องที่สองก็คือ เรื่องการทำงาน
การเรียนเป็นอะไรที่ง่ายนะ สอบไม่ผ่านก็ลงเรียนใหม่ แตกต่างจากการทำงาน หากทำพลาดไป จะเกิดผลเสียหล า ยอย่ างต ามมา เช่น โดนหักเงินเดือน โดนเจ้านายต่อว่า เพื่อนร่วมงานไม่เชื่อถือในตัวเรา ฯลฯ ชีวิตช่วงนี้อาจจะมีความสนุกน้อยลง ต้องทำงานแทบทุกวัน ไม่ค่อยมีเวลาผ่อนคล า ย เพราะสิ่งที่เดิมพัน ไม่ใช่เกรดเฉลี่ยในทรานสคริปต์ แต่เป็นเงินเดือน และความก้าวหน้าในอาชีพการงาน
แต่ขณะเดียวกัน มันก็เป็นสิ่งที่หอมหวาน หากเราทำงานได้สำเร็จลุล่วงต ามเป้าหมาย คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ จะไม่หยุดหาความรู้ แม้ว่าจะจบออ กมาจากรั้วโรงเรียนนานแล้วก็ต าม ส่วนคนที่ล้มเหลวมักจะไม่เปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ไม่รู้จักแก้ไขในสิ่งที่พลาด ทำผิดเรื่องเดิมซ้ำ ๆ จนเป็นคนไร้คุณภาพในที่สุด นี่เป็นอีกสิ่งที่บ่งบอ กว่า การเรียนจบสูง ๆ มันไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
สิ่งที่สำคัญกว่าคือ การทำงานให้เป็น ใช้ชีวิตให้เป็น เอาตัวรอ ดในสังคมให้เป็น เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มาก
อย่ าหยุดพัฒนาตัวเอง อย่ าปิดกั้นตัวเองจากสิ่งใหม่ ๆ และอย่ ายึดติดว่าต้องทำงานตรงสายที่เรียน มาเท่านั้น ชีวิตจริงเราสามารถเรียนได้ทุกอย่ าง รู้ได้ทุกเรื่อง แตกฉานได้ทุกวิช า อยู่ที่เราจะไขว่คว้าได้มากเพียงใด ในวัยเรียนเราจะได้รับ ‘บทเรียน’ ก่อนเจอ ‘บททดสอบ’ แต่ในชีวิตจริง เราจะเจอ ‘บททดสอบ’ ก่อน จึงจะได้รับ ‘บทเรียน’
ที่มา meeruk