วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดที่ควรทำก่อนวัย 50 เพื่ออนาคตไม่ลำบากและไม่เป็นภาระของลูกหลาน กับบทความ ข้อคิดที่ควรทำ ก่อนวัย 50 ชีวิตบั้นปล า ยไม่ลำบาก ไปดูกันว่าจะต้องทำอย่ างไรบ้าง
เกิดมาหนึ่งชีวิต อย่ าไปคาดหวังอะไรให้มากแค่มอง ความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ มีความสุขอยู่ในทุกวันก็เพียงพอแล้ว
ตอน มีอายุ 1 ขวบ ความสำเร็จ คือ การเดินได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องมีใครมาพยุง
ตอน มีอายุ 4 ขวบ ความสำเร็จ คือ…ไม่ฉี่รดกางเกง
ตอน มีอายุ 8 ขวบ ความสำเร็จ คือ…รู้ทางกลับจากโรงเรียน มาบ้านได้
ตอน มีอายุ 15 ปี ความสำเร็จ คือ…การมีเพื่อน มากมาย ที่รักเรา
ตอน มีอายุ 18 ปี ความสำเร็จ คือ…การสอบเข้ามหาวิทย าลัยได้
ตอน มีอายุ 22 ปี ความสำเร็จ คือ…การเรียนจบจากมหาวิทย าลัย
ตอน มีอายุ 25 ปี ความสำเร็จ คือ…การมีงานทำ สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้
ตอน มีอายุ 30 ปี ความสำเร็จ คือ…การสร้างครอบครัว ที่อบอุ่น
ตอน มีอายุ 35 ปี ความสำเร็จ คือ…การสร้างฐานะที่มั่นคงได้มากขึ้น
ตอน มีอายุ 45 ปี ความสำเร็จ คือ…การได้ให้การศึกษาดีๆแก่ลูกๆ
ตอน มีอายุ 50 ปี ความสำเร็จ คือ…การรั ก ษ า ภาพลักษณ์ที่ดี
ตอน มีอายุ 55 ปี ความสำเร็จ คือ…ยังสามารถทำงานได้อย่ างดี
ตอน มีอายุ 60 ปี ความสำเร็จ คือ…ยังขับรถ พาตัวเองไปในที่ที่อย ากไปได้
ตอน มีอายุ 65 ปี ความสำเร็จ คือ…มี สุ ข ภ า พ ที่แข็งแรง ไม่ เ จ็ บ ไม่ ไ ข้
ตอน มีอายุ 70 ปี ความสำเร็จ คือ…ยังได้พบปะ พูดคุยกับเพื่อนเก่าๆ
ตอน มีอายุ 75 ปี ความสำเร็จ คือ…ไม่เป็นภาระให้ใคร
ตอน มีอายุ 80 ปี ความสำเร็จ คือ…ยังจำทางกลับบ้านได้
ผมได้ถามเพื่อนคนหนึ่ง ที่ตอนนี้เขาอายุ 60 ปีแล้ว ผมถามเขาว่า คุณได้เรียนรู้อะไร และอย ากจะเปลี่ยนแปลงอะไรที่ผ่าน มาในชีวิตบ้าง และก็ได้ข้อสรุปดังนี้
1 ผมจะไม่ยึดเอาความคิดตัวเองเป็นหลัก จน ทำ ล า ย มิตรภาพดีๆ
เพราะการอยู่คนเดียว มันไม่ความสุขเท่าการมีความสุขหล า ยๆคน
2 ผมจะถอยห่างจากคนที่ดูถูกผม เพราะคนเหล่านั้นไม่เข้าใจคุณค่าในตัวผม
ดังนั้น ผมจะไม่อยู่ใกล้ให้ความคิดลบของเขา มาทำให้จิตใจผมต้องขุ่น มัว
3 ผมจะไม่กังวลกับรอยเปื้อนเล็กๆบนเสื้อผ้า หรือแม้แต่ข้อผิดพลาด
เล็กๆ น้อยๆ ของคนอื่น เพราะนิสัยสำคัญกว่ารูปลักษณ์ภายนอ ก
4 ผมจะมองในแง่บวก ชื่นชมมากกว่าตำหนิ
ไม่ใช่แค่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี แต่ก็ยังทำให้เรารู้สึกดีไปด้วย
5 ผมจะไม่แก้ไขความผิดคนอื่น แม้ว่าคนเหล่านั้นจะผิด
เพราะการทำให้ทุกคนเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่หน้าที่และความรับผิดชอบของผม
6 ผมจะไม่พูดกับผู้สูงอายุอีกว่า ‘ เรื่องนี้ท่านได้เล่าให้ฟัง…หล า ยครั้งแล้ว ‘
เพราะเรื่องที่ท่านกำลังเล่า ทำให้ท่านช่วยฟื้นความทรงจำ ไม่ทำให้เป็นคนขี้หลงขี้ลืม
7 เมื่อก่อนผมรักพ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อนฝูง แต่ตอนนี้ผมอายุมากขึ้น
สุ ข ภ า พ ก็เริ่มถดถอย ผมหันกลับมารักตัวเองมากขึ้น
8 ผมไม่ต่อร า ค ากับแม่ค้าข า ยผักผลไม้ ผมอาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกเล็กน้อย
ซึ่งไม่ได้กระทบกับชีวิตผม แต่เงินเพียงเล็กน้อยที่ผมต่อ อาจหมายถงึค่าเล่าเรียนในอนาคตของลูกๆเขา
9 เมื่อต้องจ่ายค่าแท็กซี่ ผมไม่รอให้คนขับหาเศษเหรียญมาทอน
การให้ทิปเขาเล็กน้อย อาจได้รับรอยยิ้มตอบแทน มา และนั่นคือสิ่งที่ดี
10 ผมคิดไว้เสมอว่า ทุกวันเป็นวันสุดท้าย เพราะวันหนึ่งก็ต้องถึงวันสุดท้ายของชีวิต
และผมจะทำในสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขเพื่อนๆที่ผมรู้จัก บางคนยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตหลังเกษียณ ก็ต้องจากโลกนี้ไปแล้ว ส่วนบางคนที่เพิ่งเกษียณแทนที่จะได้พักผ่อนให้สบาย ร่ า ง ก า ย ที่ต้องทนทำงาน มาเกือบค่อนชีวิต กลับต้องไปใช้ชีวิตที่เหลือ อยู่ในโรงพย าบาล ส่วนผมนั้นโชคดี…ที่ตอนนี้ยังเดินทางไปนั่นนี่ได้อย่ างสะดวก ต้องขอบคุณ ทุกสิ่งที่ผ่าน มาในชีวิต ที่ทำให้ผมยังเป็นผมได้อยู่ทุกวันนี้
ที่มา b i t c o r e t e c h, v e r r y s m i l e j u n g